ReadyPlanet.com
dot
dot
จำนวน : 0 ชิ้น
ราคา : 0.00บาท
bullet ดูสินค้า
bullet ชำระเงิน
dot
dot
ผ้าเปียกแอลกอฮอลล์ต้านCOVID-19
โปรโมชั่นประจำเดือน www.try2havebaby.com
ชาเพื่อคนมีบุตรยาก
วิตามินและอาหารเสริม
ตัวช่วยเพือผู้มีบุตรยาก
ชุดทดสอบปัสสาวะและอสุจิ
เทอร์โมมิเตอร์วัดช่วงเวลาไข่ตก
วิตามินและชาสำหรับผู้หญิงตั้งครรภ์และให้นมบุตร
กางเกงหัดเลิกแพมเพิ,กางเกงซับฉี่,
กางเกงผ้าอ้อมว่ายน้ำ,ครีมทาก้นเด็กทารกแรกเกิด,กางเกงผ้าอ้อมซักได้
ผ้ารองปูที่นอน,แผ่นรองปูที่นอน,แผ่นรองซับฉี่
Clearance Sale
dot

dot
dot
ลิงค์เพื่อนบ้าน
dot


เช็คได้หลังจากร้านส่งสินค้า1วัน
ปรึกษาเรื่องครอบครัว, แม่และเด็ก
LazadaGroup
Pantip.com,Learn&Share&Fun
แบนเนอร์ตัวอย่าง


ทฤษฎีอาหารหารฤทธิ์ร้อน-อาหารฤทธิ์เย็น เป็นของหมอเขียว ใจเพชร กล้าจน

ทฤษฎีอาหารหารฤทธิ์ร้อน-อาหารฤทธิ์เย็น  เป็นของหมอเขียว ใจเพชร กล้าจน ซึ่งตัดเอามาเพื่อให้ลูกค้าที่อยากปรับเรื่องของอาหารให้ได้อ่านกันง่ายขึ้น โดยปกติผู้ที่เป็นคนหนาวง่าย ขึ้หนาว จะไม่ควรทานของฤิทธิ์เย็นมากเกินไป ในแต่ละวัน ควรทานทั้งร้อนและเย็นให้สมดุลย์ ร่างกายก็จะไม่เจ็บป่วย อาหารที่คนไทย(ผู้หญิง)ส่วนใหญ่ชอบ มักจะเป็นอาหารของทอด และขนม ผลไม้ฤิทธิ์ร้อน  ดังนั้นควรหาความรู้ว่า อาหารในแต่ละวันที่เราเลือกทาน เข้าไปแต่ละมื้อเป็นอาหารประเภทไหน เป็นอาหารที่ทำให้ร่างกายสมดุลย์หรือไม่ หาก เย็นเกินไป หรือ ร้อนเกินไป ก็ส่งผลกับร่างกายและมดลูกได้ จึงจำเป็นต้องปรับให้สมดุลย์  

อาหารฤทธิ์ร้อน

กลุ่มคาร์โบไฮเดรต
- ข้าวเหนียว ข้าวแดง ข้าวดำ (ข้าวก่ำ ข้าวนิล) ข้าวอาร์ซี ข้าวสาลี ข้าวบาร์เลย์
- เผือก มัน กลอย อาหารหวานจัด ขนมปัง ขนมกรุบกรอบ บะหมี่ซอง


กลุ่มโปรตีน
- เนื้อ นม ไข่
- ถั่วดำ ถั่วแดง ถั่วลิสง ถั่วทอดทุกชนิด
- เห็ดโคน (เห็ดปลวก) เห็ดหอม เห็ดหลินจือ เห็ดก่อ เห็ดไค เห็ดขม เห็ดผึ้ง
- โปรตีนจากพืชและสัตว์ที่หมักดอง เช่น เต้าเจี้ยว มิโสะ โยเกิร์ต ซีอิ้ว แทมเป้ กะปิ น้ำปลา ปลาร้า ปลาจ่อม ปลาเค็ม
- เนื้อเค็ม แหนม ไข่เค็ม ซีอิ้ว เป็นต้น


กลุ่มไขมัน
ควรงดหรือลดการรับประทานอาหารที่มีไขมันสูง
เพราะไขมันมีพลังงานความร้อนมากกว่าอาหารชนิดอื่นๆ เช่น
- น้ำมันพืช น้ำมันสัตว์
- กะทิ เนื้อมะพร้าว
- งา รำข้าว จมูกข้าว
- เมล็ดทานตะวัน เมล็ดฟักทอง เมล็ดอัลมอลล์ เมล็ดมะม่วงหิมพานต์ เมล็ดกระบก
- ลูกก่อ เป็นต้น


กลุ่มผักฤทธิ์ร้อน ผักที่มีรสเผ็ดทุกชนิด เช่น
- กระชาย กระเพรา กุ้ยช่าย (ผักแป้น) กระเทียม
- ขิง ข่า (ข่าแก่จะร้อนมาก) ขมิ้น
- ผักชี ยี่หร่า โหระพา พริก พริกไทย (ร้อนมาก) แมงลัก
- ไพล ตะไคร้ ใบมะกรูด เครื่องเทศ
- ต้นหอม หอมหัวใหญ่ หอมแดง เป็นต้น

นอกจากนี้ยังมีพืชบางชนิดที่ไม่มีรสเผ็ดแต่มีฤทธิ์ร้อน (มีพลังงานความร้อนหรือแคลอรี่ที่มาก) เช่น
- กะหล่ำปลี กระเฉด ใบยอดและเมล็ดกระถิน ผักกาดเขียวปลี
- ผักโขม ผักแขยง
- คะน้า แครอท
- ชะอม
- บีทรูท เม็ดบัว ไหลบัว รากบัว แปะตำปึง ใบปอ ใบยอ
- แพงพวยแดง
- ถั่วฝักยาว ถั่วพู สะตอ ลูกเนียง
- ลูกตำลึง ฟักทองแก่
- โสมจีน โสมเกาหลี (ร้อนเล็กน้อย)
- ไข่น้ำ (ผำ) สาหร่่ายทะเล สาหร่ายน้ำจืด(เทา) ยอดเสาวรส หน่อไม้
- พืชที่มีกลิ่นฉุนทุกชนิด เป็นต้น

กลุ่มผลไม้ฤทธิ์ร้อน

เป็นกลุ่มผลไม้ที่ให้น้ำตาล วิตามินหรือธาตุอาหารที่นำไปสู่ขบวนการเผาผลาญ
เป็นพลังงานความร้อน (แคลอรี่) ที่มาก เ่ช่น
- กล้วยเล็บมือนาง กล้วยไข่ กระเจี๊ยบแดง กระทกรก (เสาวรส)
- สำหรับกล้วยหอมทองและกล้วยหอมเขียวมีรสหวานจัดจึงมักออกฤทธิ์ตีกลับเป็นร้อน)
- ขนุนสุก
- เงาะ
- ฝรั่ง
- ทุเรียน ทับทิมแดง
- น้อยหน่า
- มะตูม มะเฟือง มะไฟ มะแงว มะปราง มะม่วงสุก มะขามสุก (ร้อนเล็กน้อย) มะละกอสุก (ร้อนเล็กน้อย)
- ระกำ (ร้อนเล็กน้อย)
- ลิ้นจี่ ลำไย ลองกอง ละมุด ลูกยอ ลูกลำดวน ลูกยางม่วง ลูกยางเีขียว ลูกยางเหลือง
- สละ ส้มเขียวหวาน สมอพิเภก
- องุ่น
- ผลไม้ทุกชนิดที่ผ่านความร้อน เช่น การอบ นึ่ง ปึ้ง ย่าง ต้ม หรือตากแห้ง เป็นต้น


อาหารที่มีฤทธิ์ร้อนมาก ถ้ากินมากเกินไป จะเป็นอันตรายต่อสุขภาพมาก

- อาหารที่ปรุงเค็มจัด มันจัด หวานจัด เผ็ดจัด เปรี้ยวจัด ฝาดจัดและขมจัด
- อาหาร กลุ่มไขมัน
- เนื้อ นม ไข่ที่มีไขมันมาก รวมถึงสารที่มีสารเร่งสารเคมีมาก
- พืชผักผลไม้ที่มีการสารเคมีมาก
- อาหารที่ปรุงผ่านความร้อนนาน ๆ ผ่านความร้อนหลายครั้ง ใช้ไฟแรง หรือใช้คลื่นความร้อนแรง ๆ
- อาหารใส่สารสังเคราะห์ ใส่สารเคมี
- อาหารใส่ผงชูรส
- สมุนไพร หรือยาที่กระตุ้นการไหลเวียนของเลือดหรือบำรุงเลือด
- วิตามิน แร่ธาตุ และอาหารเสริมที่สกัดเป็นน้ำ ผง หรือเม็ด (ยกเว้นอาจกินได้เมื่อมีข้อบ่งชี้ชัดเจนว่าขาดสารดังกล่าว)
- เครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ คาเฟอีน หรือน้ำตาลที่มากเกินไป เช่น เหล้า เบียร์ ไวน์
- ชา กาแฟ น้ำอัดลม เครื่องดื่มชูกำลัง เป็นต้น
- อาหาร ที่มีโซเดียมสูง ได้แก่ อาหารแปรรูปหรือสำเร็จรูปต่าง ๆ เช่น บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ขนมอบ
- ขนมกรุบกรอบ ขนมปัง อาหารกระป๋อง ไส้กรอก หมูยอ กุนเชียง น้ำหมัก ข้าวหมาก ปลาเค็ม เนื้อเค็ม
- ไข่เค็ม ของหมักดอง อาหารทะเล (จะมีทั้งไขมันและโซเดียมสูง) เป็นต้น
- น้ำร้อนจัด เย็นจัด และน้ำแข็ง

โดยขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายของแต่ละคนว่าจะงดหรือลดอะไร แค่ไหนที่ทำให้เกิดสภาพโปร่งโล่งสบาย เบากายและกำลังเต็มที่สุด



************

อาหารฤทธิ์เย็น

กลุ่มคาร์โบไฮเดรต
- น้ำตาล ข้าวขาว เส้นขาว (เส้นหมี่. เส้นก๋วยเตี๋ยวที่ไม่มีน้ำมัน) วุ้นเส้น ข้าวซ้อมมือ ข้าวกล้องเหลือง
สำหรับ น้ำตาล ข้าวขาว เส้นขาว และวุ้นเส้นกินเพียงเล็กน้อยในช่วงเวลาที่ร่างกายร้อนมากๆ


กลุ่มโปรตีน
- ถั่วขาว ถั่วเขียว ถั่วเหลือง (สำหรับคนมดลูกเย็นไม่ควรทานทุกวันเป็นอย่างยิ่ง)ถั่วลันเตา ถั่วโชเล่ย์ขาว ลูกเดือย
- เห็ดฟาง เห็ดนางฟ้า เห็ดหูหนู เห็ดขอนขาว เห็ดลม(เห็ดบด) เห็ดตาโล่ เห็ดตีนตุ๊กแก


กลุ่มผักฤทธิ์เย็น
- กระหล่ำดอก ก้านตรง กวางตุ้ง ผักกาดฮ่องเต้ ผักกาดขาว ผักกาดหอม
- หยวกกล้วย ปลีกล้วย ก้านกล้วย กล้วยดิบ หัวไช้เท้า (ผักกาดหัว) ก้างปลา
- ข้าวโพด ขนุนดิบ ดอกสลิด (ดอกขจร) ฝัก/ยอด/ดอกแค
- ใบเตย ผักติ้ว ตังโอ๋ ใบ/ยอดตำลึง
- ถั่วงอก
- บัวบก สายบัว ผักบุ้ง บล๊อกเคอรี่ บวบ
- ปวยเล้ง ผักปลัง
- พญายอ (เสลดพังพอนตัวเมีย)
- ฟักทองอ่อน ยอดหรือดอกฟักทอง ยอดฟักข้าว ยอดฟักแม้ว ฟัก แฟง แตงต่างๆ
- มะละกอดิบ-ห่าม มะเขือเปราะ มะเขือลาย มะเขือยาว มะเขือเทศ มะเดื่อ มะอึก ใบมะยม ใบมะขาม
- มังกรหยก มะรุม ยอดมะม่วงหิมพานต์
- ย่านางเขียว-ขาว
- รางจืด
- ว่านกาบหอย ว่านหางจระเข้ ว่านมหากาฬ ทูน (ตูน) ว่านง็อก (ใบหูลิง) ผักว่าน
- โสมไทย ใบส้มป่อย ส้มเสี้ยว ส้มรม ส้มกบ
- หมอน้อย ผักหวานป่า ผักหวานบ้าน เหงือกปลาหมอ ผักโหบแหบ
- อ่อมแซบ (เบญจรงค์) ยอดอีสึก (ขุนศึก) อีหล่ำ

กลุ่มผลไม้ฤทธิ์เย็น
- กล้วยน้ำว้าห่าม กล้วยหักมุก แก้วมังกร กระท้อน
- แคนตาลูป
- ชมพู่ เชอรี่
- แตงโม แตงไทย
- ทับทิมขาว ลูกท้อ
- มังคุด มะยม มะขวิด มะดัน มะม่วงดิบ มะละกอดิบ-ห่าม มะขามดิบ
- น้ำมะนาว น้ำมะพร้าว
- ลางสาด

- สับปะรด สตรอเบอรี่ สาลี่ ส้มโอ ส้มเช้ง ส้มซ่า ส้มเกลี้ยง สมอไทย
- ลูกหยี หมากเม่า หมากผีผ่วย
- แอปเปิ้ล
เรียบเรียงโดยใช้ข้อมูลจาก ถอดรหัสสุขภาพ เล่ม ๒ "ความลับฟ้า: ถ้าสุขภาพพึ่งตนเกิดไม่ได้ หมอและคนไข้จะพากันป่วยตาย" โดย ใจเพชร มีทรัพย์ (หมอเขียว)

ขอขอบคุณข้อมูลดีๆที่คัดมาจากฺBlog ของคุณpatnaja

และอีกบทความอาหารฤทธิ์ร้อน-เย็น หนึ่งในวิถีธรรมชาติบำบัด

อาหาร ฤทธิ์ร้อน-เย็นนี้ คือหนึ่งในวิถีธรรมชาติบำบัด ที่เชื่อว่าอาหารแต่ละอย่างส่งผลให้ร่างกายร้อนหรือเย็น สุขภาพที่แข็งแรงจะเกิดขึ้นต่อเมื่อร่างกายอยู่ในภาวะได้สมดุล ไม่ร้อนหรือเย็นเกินไป ภาวะที่ร้อนหรือเย็นมากเกินไปนั่นเองที่ทำให้เกิดโรคต่างๆ

อาการของภาวะที่ร้อน-เย็นเกินไป

      ร้อนเกินไป : หน้า แดง มีสิวขึ้น มีแผลในช่องปากด้านล่าง ตัวร้อน มือเท้าร้อน มีเส้นเลือดขอดตามจุดต่างๆ ท้องผูกเป็นประจำ ท้องอืด เจ็บปลายลิ้น เจ็บส้นเท้า

      เย็นเกินไป : ตา แฉะ ขี้ตาเยอะ เป็นแผลในช่องปากด้านบนหรือโคนลิ้น ตัวเย็น มือเท้าเย็น มีน้ำมูกใส นิ้วล็อคกำมือไม่ลง อุจจาระเหลวสีอ่อน เจ็บโคนลิ้น

ร้อน-เย็น ดูกันยังไงนะ

        หมั่นสังเกตว่าอาหารที่กินเข้าไปทำปฏิกิริยาให้ร่างกายร้อนขึ้นหรือเย็นลง แค่ไหน นอกจากนี้ยังมีลักษณะของอาหารที่ให้ฤทธิ์ร้อน-เย็น มาให้อ่านเพื่อใช้ประกอบการสังเกตกันด้วยค่ะ 

      อาหารฤทธิ์เย็น : มักจะมีลักษณะเปรี้ยว ขม หรือจืด 

      อาหารฤทธิ์ร้อน : มักจะมีลักษณะเค็ม 

        แต่ในปัจจุบันนี้อาหารส่วนใหญ่ที่เรากินกันมักจะมีฤทธิ์ร้อน เช่น อาหารที่เค็มจัด มันจัด หวานจัด เผ็ดจัด เปรี้ยวจัด อาหารใส่สารเคมี อาหารใส่ผงชูรส เหล้า เบียร์ ไวน์ ชา กาแฟ น้ำอัดลม เครื่องดื่มชูกำลัง ขนมกรุบกรอบ บะหมี่ซอง รวมไปถึงน้ำร้อนจัด น้ำเย็นจัด และน้ำแข็ง

         จริงๆ อาหารก็เป็นเพียงส่วนหนึ่งของวิธีคิดแบบร้อน-เย็น เพราะยังมีปัจจัยอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการที่ร่างกายจะมีภาวะร้อนหรือเย็นอีกมาก เช่น ความเครียด อดนอน กลั้นปัสสาวะหรืออุจจาระ เดินทางบ่อย หงุดหงิดโมโห และสูบบุหรี่

         ดังนั้นหากคุณพบว่าตัวเองมีอาการที่แสดงว่าร่างกายคุณมีภาวะร้อนหรือเย็นจน ผิดปกติ นอกจากจะต้องปรับเปลี่ยนอาหารแล้ว คงจะต้องเปลี่ยนรายละเอียดในชีวิตประจำวันกันบ้าง เพื่อให้สอดคล้องกับภาวะที่ได้สมดุล อันจะนำภาวะปลอดโรคและมีสุขภาพที่แข็งแรงมาสู่ชีวิตของคุณค่ะ

ขอขอบคุณบทความจากอาหารฤทธิ์ร้อน-เย็น หนึ่งในวิถีธรรมชาติบำบัดของคุณ   whatcha99





รวมบทความที่มีประโยชน์สำหรับคนอยากมีลูก

หมอแมะ สมุนไพรจีน กับการรักษาโรคต่างๆ เช่น โรคมะเร็ง มีบุตรยาก
มีรังไข่ข้างเดียว นับวันไข่ตกอย่างไร
การรักษาด้วยแพทย์จีน ต่างจากแพทย์แผนปัจจุบันอย่างไร
รวมรายชื่อหมอแมะที่รักษาเรื่องมีบุตรยากและประจำเดือนไม่ปรกติ
8 คำถามสุดฮิตของผู้มีบุตรยาก อยากมีลูกควรอ่าน article
อยากมีลูกพลาดเทคนิคนี้ไม่ได้
เมื่อ คุณกลายเป็นผู้หญิง มีลูกยาก
สอนผู้หญิงเป็นหมอของตัวเอง เช็ควันไข่ตกจากน้ำลาย
เรื่องของหยินหยางกับการพยายามตั้งครรภ์
รู้ได้ อย่างไร ว่า ท้อง หรือไม่ article
อยากมีลูกแต่ไม่อยากไปหาหมอ
กรดโฟลิค (Folic Acid)มีความสำคัญอย่างไรต่อผู้หญิง
เตรียมตัวก่อนการตั้งครรภ์ อย่างไรดี
สาเหตุที่ทำให้เบื่อมีเพศสัมพันธ์
นับวันไข่ตก นับอย่างไรกันแน่
ความบกพร่องของกระดูกไขสันหลังSpina Bifida article
รังไข่ทำงานผิดปกติ แบบกลุ่มอาการ PCOS article
หมอจีนรู้อะไรจากประจำเดือน ภาคแรก
หมอจีนรู้อะไรจากประจำเดือน 2 (ภาคตอบคำถาม)
เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ (Endometriosis)
การสร้างไข่ในผู้หญิงแลเชื้ออสุจิในผู้ชายกับนาฬิกาชีวิต
กินถั่วเหลืองมากไป ผู้ชายอาจมีปัญหามีบุตรยาก
น้ำมันปลาช่วยเรื่องภาวะการมีบุตรยากอย่างไร
การตรวจเบื้องต้นเพื่อหาสาเหตุของภาวะมีบุตรยาก article
กิ๊ฟท์และเด็กหลอดแก้วต่างกันอย่างไร สำหรับ ผู้มีบุตรยาก article
การรักษาภาวะมีบุตรยากที่ไม่ทราบสาเหตุ article
มีลูกยากทำไงดี...ตามแบบแพทย์แผนจีน
โปรแกรมช่วยคำนวณวันตกไข่
ทำไมจึงต้องใช้ทดสอบLH(Luteinizing Hormone)
การออกกำลังกายเพื่อสุขภาพที่ดี
การชักนำให้ไข่ตกในหญิงที่มีภาวะมีบุตรยาก
ไขข้อสงสัยการมีลูก (ยาก) สู่ทางเลือก 'การมีลูก'
นอนกลางวันดีอย่างไร? article
ความรู้เรื่องนมผึ้งซึ่งมีผลต่อฮอร์โมนเพศ
Blighted Ovum ท้องลม…. article
ท้องนอกมดลูกคืออะไร
“มีลูกยาก” เรื่องยากที่แก้ไขได้
"โรคความดันต่ำ" ในมุมมองแพทย์จีน
ปรัชญาดอกไม้ริมทาง - นอน นอนเถิดนอน อยากให้เธอเข้านอน
เซ็กส์ กับการมีลูก สำหรับคนอยากมีลูก มีบุตรยาก article
มารู้จักฮอร์โมนเพศหญิงกันเถอะ